Marketing Automation ไม่ใช่สิ่งที่จะ “ทำเสร็จให้ฝุ่นจับ”

จริง ๆ แล้วมันก็ไม่มีใครห้ามคุณทำแบบนั้นหรอกกับการตั้งค่าให้เรียบร้อยแล้วโยนทิ้งถังขยะกับการตลาด marketing automation แต่ว่าคุณไม่ควรทำน่ะสิ

Marketing automation นั้นเป็นที่สนใจอย่างมากและนั่นอาจทำให้มีทางลัดที่จะไปยังความสำเร็จได้ เมื่อนึกถึงการตลาด marketing automation หลายคนจะเห็นภาพหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการ setup ที่พวกเขาสามารถละสายตาและปล่อยให้กลไกทำงานด้วยตัวเองแบบ autopilot จากประสบการณ์ของเราการคิดแบบนั้นมักนำปัญหามาแทนการนำประโยชน์

ติดตั้งและตั้งค่าแพลตฟอร์มการตลาด marketing automation และทิ้งไว้โดยไม่คอยเช็คอย่างสม่ำเสมอนั้นเป็นสิ่งน่าเสียดายทั้ง insights และโอกาสที่เข้ามา ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะพยายามทำความเข้าใจ user มากแค่ไหน เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งสุดยอด workflow อย่างไรก็ตามการที่คุณจะยิงได้เข้าเป้าตั้งแต่ 2-3 นัดแรกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันถูกสร้างบนสมมติฐานของคุณเอง คุณเองอาจจะเคยได้ยินแบรนด์ใช้วิธีการให้ข้อเสนอพิเศษเพื่อจะดึงดูด user ให้เข้า journey นั่นเป็นทางเลือก A แต่หลายคนมักเลือกทาง B ที่ซับซ้อนมากกว่าโดยการวาง user journey อย่างดีที่สุดถึงอย่างนั้น audience ที่เข้าตาม user journey ก็ยังมีน้อย ใช่แล้วล่ะพฤติกรรมของลูกค้าเป็นเพียง 1 ในโจทย์ที่คุณต้องเผชิญ เมื่อคุณเหมือนจะ setup โปรแกรมฟังชั่นก์ได้ดีแต่แล้วคุณก็กลับพบว่าคอนเท้นท์ที่หลุดกระแส ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ปัญหา logic ต่างๆ ก็ถาโถมเข้ามาใส่เสียอย่างนั้น แคมเปญ marketing automation ก็เหมือนกับรถเฟอร์รารี่ที่ยังต้องจอดพักนั่นแหละ

บางบริษัทใช้เวลาไปกับการ setup แคมเปญเริ่มต้น ด้วยความพยายามที่จะวางแผนแม่บทและใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการจัดตั้งกองกำลังในการสรรสร้างค์ไอเดียทางการตลาดทั้งด้านข้อมูลและคอนเท้นต์ อะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น? ในเมื่อคุณใช้เวลาไปกับความตั้งใจที่จะทำให้ทุกอย่างทำงานได้อย่างราบรื่น นั่นหมายความว่าคุณจะต้องตั้งขอบเขตงานใหญ่มากกว่าที่คุณอาจจะคาดไว้ หลายเดือนผ่านไป marketing automation ก็ยังคงอยู่ในเพียงขั้นวางแผน ในขณะที่การลงทุนนั้นยังให้ ROI ที่ต่ำและในท้ายที่สุดบริษัทก็เริ่มที่จะไม่แน่ใจในความคุ้มค่าของมัน

วิธีการของ Ematic

นี่คือวิธีการของ Ematic ความเชื่อของเราคือ marketing automation นั้นควรได้รับการดูแลในระยะยาวและได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิดนี้เราจึงใช้กระบวนการ agile ในการออกแบบโมเดลบริการแบบยืดหยุ่น

กระบวนการ agile ของเราหมายถึง?

  • เราไม่เพียง “ทำให้เสร็จแล้วทิ้งลืม” เราสร้างกระบวนการสมมติฐาน ทดสอบ และเรียนรู้ เพื่อที่จะต่อยอด/คัดแยก องค์ประกอบในโปรแกรม automation โดยขึ้นกับฟีดแบคและ insight ที่ได้จากข้อมูลจริงอย่างต่อเนื่องเพื่อค้นหาการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแคมเปญของคุณ
  • เริ่มต้นอย่างรวดเร็ว และ ไม่ลงทุนไปแต่กับช่วงเริ่มต้น แทนที่จะ launch แบบบิ๊กแบง เราเริ่มการตามหาโอกาสที่ดีที่จะทำ marketing automation ใช้งานได้เร็วที่สุด หลังจากที่เราสำเร็จในการสร้าง flow จนมันสามารถสร้างรายได้แล้ว เราจึงจะกลับไปโฟกัสที่การสร้างฐานระบบ

เราดำเนินการ scrum ทุกเดือน เพื่อที่จะส่งต่อผลลัพธ์ตามแต่การจัดการทรัพยากร

เพื่อที่จะให้วิธีการของเราแข็งแกรงเราจึงมีสิ่งเหล่านี้:

  • ทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมบริการ : การมีผู้เชี่ยวชาญหลายแขนงหมายถึง marketing automation ที่พร้อมใช้งานทุกเวลาสิ่งนี้สำคัญอย่างมากสำหระบการเร่งกระบวนการทำงาน เพราะคุณจะสามารถลงมือตามไอเดียได้รวดเร็วไม่ว่าไอเดียนั้นจะเล็กหรือใหญ่
  • ความยืดหยุ่นในการบริการ : คุณต้องการทรัพยากรที่พร้อมใช้งานทุกเวลา แต่ไม่ได้ต้องการมันตลอดเวลา นั่นเลยทำให้เราจะคิดค่าบริการด้วยเครดิตขึ้นอยู่กับชั่วโมงและสามารถเก็บเครดิตไว้ใช้งานได้ต่อในครั้งถัดไป เพื่อที่จะให้ความมั่นใจว่าการลงทุนของคุณจะไม่เสียเปล่า

ด้วยผู้เชี่ยวชาญที่เรามีและโมเดลบริการสุดพิเศษของเรา ทำให้เรามั่นใจได้ว่าคุณค่าที่เรามีจะช่วย marketing automation ของคุณ <<ติดต่อเรา>> เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแผนเพิ่มประสิทธิภาพของคุณ

Facebook
LinkedIn
Twitter
WhatsApp
Email

หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์